วันจันทร์ที่ 3 มีนาคม พ.ศ. 2557

หอยลายผัดน้ำพริกเผา

หอยลายผัดน้ำพริกเผา

* หอยลาย 450 กรัม (ล้างทำความสะอาด)
* น้ำตาล 1 ช้อนชา
* น้ำมันพืช 3 ช้อนโต๊ะ
* ใบโหระพา 1/2 ถ้วยตวง
น้ำพริกเผา 2 ช้อนโต๊ะ
* พริก 4 เม็ด (หั่นเป็นเส้นตามแนวยาว)
* กระเทียมสับละเอียด 2 ช้อนชา
* น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
ใบโหระพา
หอยลายผัดน้ำพริกเผา
 
     วิธีทำทีละขั้นตอน
1. นำกระทะใส่น้ำมันไปตั้งไฟปานกลาง ใส่กระเทียมและผัดจนเหลือง
2. ใส่หอยลายลงไปผัดจนสุก (เมื่อหอยลายสุก ฝาหอยจะอ้าออก) ปรุงรสด้วยน้ำปลา,น้ำตาล, และน้ำพริกเผา
3. ใส่ใบโหระพาและพริก ผัดต่อไปอีกประมาณ 10 วินาที จึงปิดไฟ ตักใส่จานและเสิรฟพร้อมข้าวสวยร้อนๆ

หมูผัดเปรี้ยวหวาน

หมูผัดเปรี้ยวหวาน
* เนื้อหมูหั่นเป็นชิ้นพอดีคำ 400 กรัม
* นมจืด 3 ช้อนโต๊ะ
* แป้งอเนกประสงค์ 1 ถ้วยตวง
* ซ๊อสบ๊วย 1/2 ถ้วยตวง
* น้ำตาล 1/3 ถ้วยตวง
* หัวหอมใหญ่ 1 ลูก (หั่นเป็นชิ้น)
* มะเขือเทศ 2 ลูก (หั่นเป็นชิ้น)
* สัปปะรด 5 ชิ้น (หั่นเป็นชิ้นพอดีคำ)
* ซ๊อสถั่วเหลือง 1 ช้อนโต๊ะ
* น้ำมะขามเปียก 1/2 ช้อนโตีะ
* น้ำมันพืช 1 ถ้วยตวง (สำหรับทอด)
มะเขือเทศ
หมูผัดเปรี้ยวหวาน
 
     วิธีทำทีละขั้นตอน
1. นำเนื้อหมูไปหมักกับนมประมาณ 2 ชั่วโมง จากนั้นนำแป้งอเนกประสงค์ไปใส่ในจานแบน นำเนื้อหมูที่หมักแล้วไปเคล้าในแป้งสลับไปสลับมาจนแป้งเคลือบทั่วผิวหมู
2. ตั้งน้ำมันในกระทะจนร้อน จากนั้นนำหมูที่ชุบแป้งแล้วไปทอด (ใช้ไฟปานกลาง) เมื่อสุกนำหมูที่ทอดไปวางบนกระดาษซับมัน
3. นำซ๊อสบ๊วยและน้ำตาลผสมกันในกระทะอีกใบ และนำไปตั้งบนไฟอ่อนๆ คนเรื่อยๆจนน้ำตาลละลายดี เติมซ๊อสถั่วเหลืองและน้ำมะขามลงไป คนจนผสมกันทั่ว
4. ใส่เนื้อหมูที่ทอดแล้ว, หัวหอมใหญ่, มะเขือเทศ, สัปปะรด ลงไปในกระทะ ผัดจนเคล้ากันทั่ว จึงปิดไฟและตักใส่จานเสิรฟ เสิรฟพร้อมกับข้าวสวยร้อนๆ

ผัดกะเพราไก่

ผัดกะเพราไก่+ไข่ดาว

* เนื้อไก่ 450 กรัม (หั่นเป็นชิ้นเล็กๆ พอดีำคำ)
* กระเทียม 5 กลีบ (สับให้ละเอียด)
* หัวหอมใหญ่ 1/2 ถ้วยตวง (หั่นเป็นชิ้นบางๆ)
* น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ
* ซิอิ๊วดำ 2 ช้อนชา
* น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
* ใบกะเพรา 1 ถ้วยตวง
* พริก 7 เม็ด (ทุบพอแหลกและสับหยาบๆ)
* พริกไทยป่น
หมายเหตุ : สามารถใส่ผักอื่นๆลงไปผัดร่วมด้วยเช่น แครอท, ถั่วฝัก, ข้าวโพดอ่อน เป็นต้น
ใบกะเพรา
ผัดกะเพราไก่+ไข่ดาว
     วิธีทำทีละขั้นตอน
1. ตั้งน้ำมันในกระทะจนร้อน จากนั้นใส่กระเทียมและผัด 5-10 วินาที ใส่หอมใหญ่ และผัดต่อไปอีกสักพักจนกลิ่นเริ่มหอม ใส่เนื้อไก่ลงต่อและผัดจนเนื้อไก่สุกทั่ว
2. ใส่พริกและซิอิ๊วดำลงไปในกระทะ ผัดต่อไปอีก 15-20 วินาที
3. ปรุงรสด้วยน้ำปลา และใส่ใบกะเพราลงไปในกระทะ ปิดไฟจากนั้นผัดให้กะเพราผสมกับเนื้อไก่่่จนทั่ว ตักใส่จาน ก่อนเสิรฟโรยหน้าด้วยพริกไทย เสิรฟพร้อมข้าวสวยร้อนๆ ในบางครั้งไข่เจียวหรือไข่ดาวมักจะเสิรฟร่วมด้วย

ทอดมันปลา

สูตร
ทอดมันปลา
* เนื้อปลาสับหรือบด 500 กรัม
* ไข่ไก่ 1 ฟอง
* ถั่วฝักยาว 1/2 ถ้วยตวง (หั่นเป็นชิ้นบาง)
* ใบมะกรูดซอยละเอียด 3 ช้อนโต๊ะ
* น้ำตาล 1 ช้อนชา
* เกลือ 1 ช้อนชา
น้ำพริกแกงเผ็ด 1 ช้อนโต๊ะ
* น้ำมันสำหรับทอด 3 ถ้วยตวง

เครื่องปรุง + ส่วนผสมน้ำจิ้มทอดมัน
     * แตงกวาหั่นเป็นชิ้นเล็ก 1 ถ้วยตวง
     * ถั่วลิสงคั่วแล้วนำไปบด 1/2 ถ้วยตวง
     * น้ำตาล 1/2 ถ้วยตวง
     * น้ำส้มสายชู 1/2 ถ้วยตวง
ถั่วฝักยาว
ทอดมันปลา
 
     วิธีทำทีละขั้นตอน
1. นำส่วนผสมทอดมันทั้งหมดลงในชามขนาดใหญ่ นวดด้วยมือจนส่วนผสมทั้งหมดเคล้ากันทั่ว
2. นำช้อนตักส่วนผสมออกมา 2 ช้อนโต๊ะ และปั้นเป็นแผ่นกลม (เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 3 นิ้ว) ปั้่นจนส่วนผสมหมด แล้วจึงจากนั้นจึงนำไปทอดในน้ำมันที่ร้อนปานกลาง จนกระทั่งสุก
3. เสิรฟพร้อมน้ำจิ้มแตงกวา

จิ้มข้าวหมกไก่

แม้ว่าข้าวหมกไก่ที่ทำให้นักชิมทั้งหลายต่างถูกปากถูกใจนั้น เสน่ห์อยู่ที่เครื่องหอมของเครื่องเทศที่แทรกซึมเข้าไปในเนื้อไก่และตัวข้าว แต่คงปฏิเสธไม่ได้เช่นกันว่าถ้าขาดน้ำจิ้มข้าวหมกไก่รสเด็ดไป ก็คงจะขาดสีสันลดความอร่อยของข้าวหมกไก่ลงไปมิใช่น้อย แต่ในทางกลับกันถ้าน้ำจิ้มอร่อยก็จะเป็นตัวชูโรงเพิ่มความอร่อยได้ดีนักเชียว แถมวิธีทำน้ำจิ้มข้าวหมกไก่นั้นก็ทำได้ง่ายๆด้วย สำหรับสูตรน้ำจิ้มข้าวหมกไก่ที่เรานำฝากนี้ รสชาติจะออกเปรี้ยวๆ หวานนำ มีความพิเศษตรงที่ใส่ใบระแหน่ลงไปด้วยทำให้น้ำจิ้มที่ได้มีสีเขียวเข้มมรกตและกลิ่นหอมน่ารับประทานยิ่ง ที่สำคัญเมื่อรับประทานคู่กับช้าวหมกไก่ ข้าวหมกหมกเนื้จานโปรดของคุณแล้วรสชาติอร่อยกลมกล่อมเข้ากันดีนักเชียว


เครื่องปรุงสำหรับน้ำจิ้มข้าวหมกไก่ 
  1. ต้นหอม 8 ต้น 
  2. ผักชี 10-12 ต้น 
  3. ขิงแก่ 1 ถ้วย 
  4. พริกชี้ฟ้าเขียว 4 เม็ด (หรือใส่เพิ่มได้ตามใจชอบ) 
  5. กระเทียมกลีบ 20 เม็ด (ใส่หรือไม่ก็ได้ตามชอบ) 
  6. ใบสะระแหน่ 1 ถ้วย 
  7. น้ำตาลทราย 1 1/3 ถ้วย 
  8. เกลือป่น 4 ช้อนชา 
  9. น้ำส้มสายชู 1 ถ้วย 
  10. น้ำเปล่า 4 ช้อนโต๊ะ 

วิธีทำน้ำจิ้มข้าวหมกไก่
1. อันดับแรกทำน้ำเชื่อมก่อนคือ นำน้ำตาลทราย เกลือ และน้ำเปล่าใส่ลงในหม้อ นำไปตั้งไฟปานกลาง คนเรื่อยๆ จนน้ำตาลละลาย ปิดเตา ยกลง พักไว้ก่อน
2. ตัดรากต้นหอม ผักชี ปลอกเปลือกขิง และตัดขั้วพริกชี้ฟ้า ล้างน้ำให้สะอาด สะเด็ดน้ำแล้วนำทุกอย่างมาซอยหยาบๆ จากนั้นนำเครื่องที่ซอยไว้ใส่ลงในเครื่องปั่น แล้วปั่นเครื่องทั้งหมดให้ละเอียด
3. จากนั้นให้ใส่น้ำส้มสายชูลงไปในน้ำเชื่อมที่เตรียมไว้และคนให้เข้ากัน ใส่ตามด้วยผักที่ปั่นเตรียมไว้ลงไป แล้วคนให้ทั้งหมดเข้ากัน

ข้าวผัดปลากระป๋อง

เมนูอาหารง่ายๆ ข้าวผัดปลากระป๋องเป็นข้าวผัดยามยากอีกจานที่ทำได้ง่ายและอร่อย หรือแม้แต่จะนำไปแปลงเป็นเมนูเด็ดผัดขี้เมา หรือเป็นผัดกระเพราะก็ยังได้ ถ้าคุณเป็นอีกคนที่ยังไม่เคยทานข้าวผัดปลากระป๋องมาก่อน รีบลองเข้าครัวไปทำทานซะนะ เพราะข้าวผัดปลากระป๋องนี้เป็นอีกเมนูอาหารง่ายๆ และวัตถุดิบก็หาง่าย ประมาณว่าถ้าคุณรื้อในครัวดูแล้วมีแค่ปลากระป๋องกับข้าวสุกอยู่บ้าง เพียงแค่นี้ก็สามารถทำข้าวผัดปลากระป๋องได้แล้วล่ะ และถ้ามีผักอะไรที่พอเหลืออยู่ก็สามารถเอามาใส่ได้หมดแหล่ะ จะได้อร่อยและน่าทานยิ่งขึ้น…แล้วคุณจะค้นพบของกินอร่อยใกล้ตัวที่ทำง่ายถูกปากถูกใจอีกจาน


เครื่องปรุง
ข้าววสุก 2 ถ้วยตวง
ปลาซาร์ดีนในซอสมะเขือเทศ 1 กระป๋อง
มะเขือเทศหั่นชิ้น ¼ ถ้วยตวง
หอมหัวใหญ่หั่น ¼ ถ้วยตวง
แครอทหั่นเล็ก ¼ ถ้วยตวง
ถั่วลันเตาเม็ด ¼ ถ้วยตวง
ผักมอคเคอรี่หั่น ¼ ถ้วยตวง
ข้าวโพดอ่อนหั่น ¼ ถ้ยตวง
กระเทียมสับ 1 ช้อนโต๊ะ (ดับกลิ่นคาวปลา)
พริกชี้ฟ้าสับ 1 – 2 ช้อนชา (ดับกลิ่นคาวปลา)
น้ำตาล ¼ ถ้วยตวง
เกลือ ½ ช้อนชา
น้ำมันพืช 1 ช้อนโต๊ะ
เครื่องเคียง : ผักชีโรยหน้า ต้นหอม แตงกวาหั่น มะนาวฝาน พริกขี้หนูหั่นฝอย

วิธีทำ
1. นำข้าวสุกคลุกกับปลากระป๋อง
2. ยกกระทะขึ้นตั้งบนเตาไฟ จากนั้นใส่น้ำมันพืชลงไปก่อน เมื่อน้ำมันร้อนให้ใส่กระเทียมสับและลงพริกไป แล้วเจียวจนเหลืองหอมด้วยไฟปานกลาง
3. พอเริ่มมีกลิ่นหอม ใส่หอมหัวใหญ่ เม็ดถั่วลันเตา แครอท หรือผักต่างๆตามแต่ชอบลงไปเลย แล้วผัดไม่ต้องนานพอแค่ผักสลด
4. จากนั้น เอาข้าวที่ร่วนแล้วไม่ติดกัน (จากข้อ1) ใส่ลงไปอีก แล้วผัดพอร้อนให้ส่วนผสมทุกอย่างเข้ากัน
5. ปรุงรสด้วยน้ำตาล เกลือเล็กน้อย ผัดคลุกเคล้าไปมาเบาๆ จากนั้นตักใส่จานโรยหน้าด้วยพริกไทยป่น เสิร์ฟพร้อมแตงกวา ผักชี ต้นหอม และมะนาวฝาน ถ้าชอบเผ็ดอาจมีพริกขี้หนูหั่นฝอยประกอบไปด้วยก็ได้
(สำหรับส์ฟรับประทาน 2 ที่)

แนะนำเพิ่มเติม
  • การเลือกซื้อปลากระป๋อง ควรเลือกปลากระป๋องชนิดบรรจุในน้ำ เนื่องจากน้ำกับไขมันผสมเข้ากันไม่ได้ กรอดไขมันโอเมก้า 3 จึงจะยังถูกเก็บรักษาอยู่ในเนื้อปลาอย่างครบถ้วน แต่ถ้าเป็นปลากระป๋องแบบ บรรจุในน้ำมัน กรดไขมันจะไหลออกมาปะปนกับน้ำมันที่ใช้บรรจุทำให้สูญเสียกรดไขมันบางส่วนไป ซึ่งเป็นกรดไขมันที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย
  • สำหรับการปรุงรสเค็มนั้น เราจะใช้เป็นเกลือป่นแทนน้ำปลา เพราะน้ำปลาจะทำให้เหม็นคาว

ปลากระพงนึ่งมะนาว

สูตรอาหารไทย ปลากระพงนึ่งมะนาว แรกเริ่มเดิมที่นั้นเป็นอาหารพื้นบ้านภาคกลาง ปัจจุบันกลายเป็นเมนูอาหารไทยยอดฮิตที่แทบทุกร้านอาหารต้องมี อีกหนึ่งเมนูที่มักจะสั่งทานเสมอเวลาไปทานข้าวนอกบ้าน สูตรอาหารปลากระพงนึ่งมะนาวเป็นการนำปลาสดๆมานึ่งจนสุกหอม แล้วราดด้วยน้ำปรุงรสจัดจ้าน เปรี้ยว แซ่บถึงใจ อีกหนึ่งเมนูเด็ดรสชาติเข้มข้นจัดจ้านครบรสตามแบบฉบับอาหารไทย รับประทานร้อนๆได้ความหอมจากเนื้อปลา อุดมไปด้วยโปรตีน วิตามิน และปราศจากไขมัน เป็นเมนูอาหารไทยที่อยากให้ทุกท่านมาลองชิมมากๆครับ วันนี้จึงได้นำสูตรปลากระพงนึ่งมะนาวมาฝาก และวิธีทำก็ทำไม่ยาก…สูตรก็ตามนี้เลยครับ


ส่วนผสม 
1. ปลากระพงขาวหนัก 7 ขีด
2. กระเทียมสับหยาบ 3 ช้อนโต๊ะ
3. พริกขี้หนูสับหยาบ 10-30 เม็ด
(ถ้าใช้พริกขี้หนูสวนจะหอมและเผ็ดมากกว่า ปริมาณแล้วแต่ชอบ ถ้าใส่ 10 เม็ดสำหรับเผ็ดน้อย ... 30 เผ็ดมาก)
4. รากผักชีสับหยาบๆ 3 ราก
5. ต้นหอมสับ 3 ช้อนโต๊ะ
6. น้ำมะนาว 3 - 4 ช้อนโต๊ะ
7. น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
8. น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา

วิธีทำ
1. นำปลากระพงมาขอดเกล็ด ควักเอาพุงปลาออก ล้างให้สะอาด แล้วบั้งขวางเนื้อปลาข้างละ 3 บั้งให้ถึงกระดูก แล้วสะเด็ดน้ำให้แห้ง
2. ก่อนนำปลาไปนึ่งให้ใช้น้ำส้มสายชูและเกลืออย่างละ 1 ช้อนชา ผสมกัน แล้วนำไปทาตัวปลาให้ทั่ว วางใส่จาน พักไว้
3. นำน้ำสะอาดใส่ในซึ้ง ต้มให้น้ำเดือด จากนั้นให้นำปลากระพง (จากข้อ 2) ลงนึ่งในซึ้งเลยครับ แล้วปิดฝาหม้อ นึ่งไฟแรงประมาณ 10-15 นาที จนกระทั่งปลาสุก จากนั้นให้ยกปลาออกมา เทน้ำในจานปลาออกโดยใส่ถ้วยไว้ต่างหาก…อย่าทิ้ง
4. ระหว่างรอปลาสุก ให้ทำน้ำปรุงรสใส่ชามเตรียมไว้ โดยผสมกระเทียมสับ ต้นหอมสับ พริกขี้หนูสับ รากผักชีสับ น้ำปลา น้ำมะนาว น้ำตาลทราย คนให้เข้ากัน แล้วก็เติมน้ำจากตัวปลาลงไปผสมด้วย ชิมและเติมรสให้ถูกใจ 
5. นำปลาที่นึ่งสุกแล้ว ราดด้วยน้ำปรุงรสที่เตรียมไว้ เสิร์ฟร้อนๆ ประดับด้วยมะนาวฝานเป็นแว่นๆ โรยหน้าด้วยใบสะระแหน่ และผักชีไทยสับตามชอบครับ
(สำหรับเสิร์ฟรับประทาน 2 ที่)

แนะนำเคล็ดลับการนึ่งปลา
  • อาจเพิ่มผักลงไปในเมนูปลากะพงนึ่งมะนาว โดยวางผักต่างๆรองตัวปลาแล้วนำไปนึ่ง
  • ปลานึ่งมะนาว ไม่ว่าจะใช้ปลาอะไรทำนั้น มีความจำเป็นที่จะต้องนึ่งปลาให้สุกเสียก่อน การที่จะนึ่งปลาไม่ให้คาวและเนื้อเละ ที่เป็นเหตุทำให้ทานปลาไม่อร่อย มีวิธีแก้ปัญหาดังนี้คือ ก่อนจะนำปลาไปนึ่งให้ใช้น้ำส้มสายชู และเกลืออย่างละ 1 ช้อนชา ผสมกัน ทาตัวปลาให้ทั่ว นำตะแกรงไปวางรองลังถึง จากนั้นให้นำปลาลงไปนึ่งในน้ำเดือดไฟแรง…จนปลาสุก ก็จะไม่มีกลิ่นคาวและเนื้อปลาก็จะไม่เละ

ข้าวผัดหมู

สูตรอาหารไทย ข้าวผัดหมู เมนูอาหารนี้อาจฟังดูเป็นอาหารพื้นๆ แต่คงปฏิเสธไม่ได้เลยว่า การจะหาข้าวผัดหมูอร่อยๆถูกใจนั้นก็ไม่ง่ายเช่นกัน ปกติแล้วมักจะเจอแบบพอกินได้เท่านั้น ทั้งที่วิธีทำข้าวผัดหมูนั้นสามารถทำได้ง่ายไม่ยุ่งยากเลย แต่ทำไมความอร่อยและน่าทานจึงแตกต่างกัน คุณอยากรู้ไหม? …เคล็ดลับของข้าวผัดหมูนั้นอยู่ที่ความคิดสร้างสรรค์ของผู้ปรุง ว่าจะเพิ่มเสริมรสอย่างไรให้ถูกใจถูกปากผู้บริโภค และที่สำคัญข้าวผัดจะต้องแห้งหมาด รสชาติเข้มข้น สีสันสวยงาม และสิ่งหนึ่งที่ชวนให้รับประทานนั้น ได้มาจากผักและเครื่องปรุงที่เสริมลงไป นอกจากแปลกใหม่ไม่เหมือนใครแล้วยังให้รสชาติเลิศถูกอดถูกใจได้ไม่ยากอีกด้วย


เครื่องปรุง
  1. ข้าวสวย (ไม่แฉะ) ¾ ถ้วยตวง
  2. หมูสับ 50 กรัม
  3. หมูแฮมหั่นเป็นเส้นฝอย 1 แผ่น
  4. หมูยอหั่นเป็นสี่เหลี่ยมลูกเต๋า 1 ช้อนโต๊ะ
  5. กระเทียมสับ 8 กลีบ
  6. แครอทหั่นเป็นเส้นฝอย 3 ช้อนโต๊ะ
  7. มะเขือเทศผ่าตามยาว 1 ลูก
  8. น้ำมันพืช 1 ช้อนโต๊ะ
  9. ไข่ไก่ 1 ฟอง
  10. น้ำมันหอย 1 ช้อนโต๊ะ
  11. ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนชา
  12. ซอสปรุงรสถั่วเหลือง 1 ช้อนชา
  13. มะนาว 1 ซีก
  14. แตงกวา ต้นหอม ผักชี พริกไทยป่น
(ถ้าบางอย่างไม่มีไม่เป็นไรครับ ใส่อย่างอื่นแทนได้ หรือถ้ามีแค่ข้าวกะไข่ ก็พอกล้อมแกล้มได้เหมือนกัน)

วิธีทำ
1. เริ่มต้นด้วยการตั้งกระทะ ใส่น้ำมันลงไปพอเริ่มร้อนใส่กระเทียมสับลงไปเจียวให้เหลือง 
2. จากนั้นจึงใส่หมูสับลงไปผัดพอสุกตามด้วยหมูแฮมและหมูยอลงไปผัด 
3. เสร็จแล้วใส่ข้าวสวยลงผัดให้ส่วนผสมเข้ากันจึงใส่แครอทและมะเขือเทศลงไปผัด ปรุงด้วยซอสปรุงรส และซีอิ๊วขาวผัดให้เครื่องปรุงเข้ากัน จากนั้นใช้ตะหลิวดันข้าวผัดขึ้นไปอยู่ข้างๆกระทะ เว้นที่ก้นกระทะไว้ตอกไข่ใส่ลงไป ใช้ตะหลิวตีไข่ให้แตก จากนั้นตักข้าวที่อยู่ข้างกระทะกลบทับไข่ไว้ รอจนไข่สุกแล้วจึงช้อนกลับให้ไข่อยู่ด้านบน ใส่น้ำมันหอยลงไปผัดให้ส่วนผสมเข้ากันอีกครั้ง ปิดไฟ
4. ตักใส่จาน จัดเรียงแตงกวาและมะนาวไว้ข้างๆจานเสิร์ฟได้ทันที

เคล็ดลับวิธีทำข้าวผัดให้อร่อย
  • สิ่งสำคัญ ข้าวสวยที่ใช้ผัดต้องไม่แฉะ นอกจากนี้ เมื่อข้าวสุกใหม่ร้อนๆ ควรเกลี่ยใส่ถาด ให้ข้าวเย็นก่อนจึงนำมาผัด ข้าวจะไม่เกาะตัวเป็นก้อน 
  • น้ำมันไม่ควรใส่มากเกินไป เพราะจะทำให้แฉะและเลี่ยน ไม่น่ากิน 
  • ต้องใช้ไฟกลางในการเจียวกระเทียมจนเหลือง ใส่เครื่องปรุงที่เป็นเนื้อสัตว์ผัดจนสุกก่อน จึงใส่ข้าวผัดให้ทั่ว ถ้าข้าวผัดชนิดใดมีส่วนผสมของไข่ต้องใส่ไข่ทีหลังข้าวพอผัดข้าวจนทั่วเกลี่ยข้าวไว้อีกด้าน หนึ่งต่อยไข่ใส่กลบข้าวบนไข่พอสุกจึงค่อยผัดไข่ ในขั้นตอนนี้ต้องผัดเร็วๆ ไข่จะเกาะเม็ดข้าวดี และไม่แฉะ เช่น ข้าวผัดปู ข้าวผัดทะเล ข้าวผัดกุ้ง ข้าวผัดหมู ในกรณีที่เป็นข้าวผัดที่นำน้ำพริกมาประยุกต์ คลุกน้ำพริกกับข้าวให้ทั่วก่อน จึงค่อยผัดทีหลังจะทำให้ส่วนผสมเข้ากันได้ดี 
  • “กระทะ” เป็นอุปกรณ์ที่สำคัญในการทำข้าวผัดเลยทีเดียว กระทะเหล็กรับความร้อนได้เร็วและดี แต่ข้าวจะติดกระทะ ต้องผัดเร็วๆเหมาะสำหรับแม่ครัวที่ชำนาญในการผัดขัาว เพราะข้าวผัดที่ได้จะมีกลิ่นหอม ถ้าเป็นแม่ครัวมือใหม่ต้องใช้กระทะเทฟล่อน แต่กลิ่นหอมจะสู้ข้าวที่ผัดจากกระทะอะลูมิเนียม กระทะเหล็ก หรือกระทะเหล็กเคลือบไม่ได้ “ตะหลิว” ก็เช่นกันต้องเลือกด้ามที่ติดแน่น ทนความร้อน
  • พวกผักต่างๆนั้น ควรหั่นเป็นสี่เหลี่ยมลูกเต๋าหรือชิ้นเล็กๆ จะช่วยทำให้ข้าวผัดอร่อยกว่าใส่ชิ้นใหญ่ เช่น หอมใหญ่ คะน้า แครอท มะเขือเทศ ต้มหอม หั่นชิ้นเล็ก

แกงหน่อไม้ใบย่านาง

หน่อไม้ทำอาหารได้หลากหลายเมนู ทั้งแกง ต้มจิ้มน้ำพริกปลาทูก็อร่อย และอีกเมนูหนึ่งซึ่งเป็นอาหารพื้นบ้านอีสาน นั่นก็คือ “แกงหน่อไม้ใบย่านาง หรือ แกงลาว“นั้นเป็นแกงเดียวกัน แกงลาวเป็นแกงยอดฮิตทางภาคอีสาน ใน 1 ถ้วย รับประทานได้ไม่รู้เบื่อ ใครที่ชอบทานหน่อไม้ห้ามพลาด เพราะแกงหน่อไม้หรือแกงลาวนี้มีรสชาติอร่อยแซ่บสไตล์อีสาน อย่างน้อยต้องมีรสเผ็ดนิดๆจึงจะอร่อย และในแกงหน่อไม้ใบย่านางนี้ยังประกอบไปด้วยสมุนไพรมากมาย และยังให้คุณค่าทางอาหารสูงอีกด้วย ดังนั้น เมนูที่จะนำเสนอวันนี้จึงเป็นอาหารจานอื่นไปไม่ได้นอกจากแกงหน่อไม้ใบย่านางหรือแกงลาว อาหารอีสานบ้านเฮานั่นเอง สำหรับวิธีการทำมีดังนี้…


เครื่องปรุง
  1. หน่อไม้สด หรือหน่อไม้รวกสุกสีเหลือง (ซื้อที่ตลาด) 8 หน่อ(สำหรับหน่อไม้สด…อะไรก็ได้ เช่น หน่อไม้ไผ่ตง, หน่อไม้บง (ขมๆ), หน่อไม้ไผ่บ้าน) 
  2. ปลาย่างแกะเนื้อ 1 ถ้วยตวง (ใส่หรือไม่ใส่ก็ได้)
  3. ชะอมเด็ด 2 ถ้วยตวง
  4. ใบแมงลักเด็ด 2 ถ้วยตวง
  5. ใบย่านางคั้นเอาน้ำ (ซื้อที่ตลาดก็ได้) 2 ถ้วยตวง
  6. น้ำปลาร้า ½ ถ้วยตวง
  7. น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
  8. ฟักทอง (หรือยอดฟักทอง) 2 ถ้วยตวง
  9. เห็ดฟาง (เห็ดนางฟ้า) 2 ถ้วยตวง
  10. ข้าวโพดอ่อน, บวบ (จะใส่หรือไม่ใส่ก็ได้)


หน่อไม้รวกสุกฝานบาง แล้วนำไปล้างน้ำให้สะอาด 
หน่อไม้สดฝานบางๆ เพื่อที่จะนำไปต้มให้สุก
เครื่องปรุงของน้ำพริกแกง
  1. พริกขี้หนูสด ¼ ถ้วยตวง
  2. หัวหอมแดง ½ ถ้วยตวง
  3. ตะไคร้หั่นฝอย 2 ช้อนโต๊ะ
  4. ข้าวเหนียวแช่น้ำ ¼ ถ้วยตวง
  5. กะปิ 1 ช้อนโต๊ะ
  6. เกลือ 1 ช้อนโต๊ะ
**โขลกทุกอย่างรวมกันให้ละเอียด**

วิธีทำ
1. เตรียมหน่อไม้
  • ปอกเปลือกหน่อไม้สด จากนั้นฝานให้เป็นชิ้นบางๆ เวลาต้มจะได้สุกและหายขมเร็ว ถ้ายังขมมากก็ต้มสักสองครั้ง ชิมดูว่าจืดหรือยัง คือหน่อไม้ที่เตรียมเสร็จแล้วนั้นควรมีรสจืด…ถ้าจืดแล้วก็เทน้ำต้มหน่อไม้ทิ้งไป 
  • หรือจะซื้อหน่อไม้รวกเหลืองมาเลยก็ได้…สะดวกดี ล้างน้ำสะอาดสัก 1 รอบ แล้วนำมาปรุงแกงหน่อไม้ได้เลย
2. ให้นำส่วนเฉพาะเนื้อของปลาย่างสุก โขลกรวมกันในน้ำพริกแกง
3. เตรียมผักต่างๆสำหรับปรุง
  • นำเห็ดฟางตัดโคนดำออก ผ่าครึ่ง ล้างน้ำไว้ให้สะอาด
  • นำชะอม ใบแมงลัก มาเด็ดยอดและใบไว้ แล้วล้างน้ำให้สะอาดพักไว้
  • นำฟักทองมาหั่นแล้วล้างน้ำให้สะอาด
  • นำใบย่านางมาเลือกเอาใบ แล้วล้างน้ำให้สะอาดคั้นเอาน้ำ พักไว้
  • คั้นใบย่านางกรองเอาแต่น้ำ (ใช้เครื่องปั่นจะเร็วกว่าใช้ครกโขลก) คือใช้ใบย่านาง 6-10 ใบ แล้วเติมน้ำ 2 ถ้วยตวงลงไป แล้วกรองเอาแต่น้ำ ก็จะได้น้ำใบย่านาง 2 ถ้วยตวงแล้ว
4. นำหน่อไม้มาต้มกับน้ำใบย่านาง พอเดือดใส่น้ำพริกแกงลงคนให้ทั่ว พอเดือดอีกใส่เห็ด ฟักทอง ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำปลาร้า ชิมดูรสชาติให้อร่อยตามชอบใจ พอน้ำเดือดอีกครั้งให้ใส่ชะอม ใบแมงลัก คนให้ทั่ว แล้วปิดไฟ

ขั้นตอนทำซุปหน่อไม้

5. พร้อมตักเสิร์ฟรับประทานร้อนๆ (^_^)
(เสิร์ฟรับประทานได้ 1 ถ้วย)

แนะนำเพิ่มเติม
  • อาหารพื้นๆ ได้คุณค่าทางยาจากพืชสมุนไพร อย่าง กระชาย ใบย่านาง หรือ ใบชะอม แต่ต้องระวังสำหรับท่านที่มีปัญหาเรื่องนิ่ว เพราะในหน่อไม้จะมีสารพวก ออกซาเลตสูง ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งของการเกิดโรคนิ่ว
  • สำหรับเนื้อปลาย่างจะใส่หรือไม่ก็แล้วแต่ชอบ หรือเราจะเปลี่ยนเอาเป็นเนื้อหมูสุก เนื้อไก่สุกก็ย่อมได้ทั้งนั้น
  • สำหรับผู้ที่ไม่ชอบน้ำปลาร้าสามารถใส่แต่น้ำปลาแทนอย่างเดียวก็ได้ หรือจะใส่แต่น้ำปลาร้าอย่างเดียวก็ได้ ก็อร่อยเช่นกัน…ขึ้นอยู่กับความชอบ

ซุปหน่อไม้

ซุปหน่อไม้นั้นเป็นอาหารพื้นบ้านของภาคอีสานที่เราค่อนข้างจะคุ้นเคย หากพูดถึงส้มตำก็ต้องมีซุปหน่อไม้ ซึ่งผู้นิยมอาหารอีสานมักจะสั่งมาควบคู่กับส้มตำด้วยเสมอ เพราะอร่อยแซ่บหลายอย่าบอกใคร แม้แต่ฝรั่งตาน้ำข้าวก็โปรดปรานชื่นชอบเมนูอาหารไทยนี้เป็นจำนวนมาก สำหรับวิธีการทำซุปหน่อไม้นั้นคุณสามารถทำรับประทานเองได้แสนง่าย คือการนำหน่อไม้รวก มาต้มกับใบย่านางจนสุก แล้วตักเอาเฉพาะเนื้อหน่อไม้ที่เตรียมไว้และน้ำใบย่านางอีกเล็กน้อย เอามาปรุงแต่งรสชาติด้วยข้าวคั่ว ต้นหอม ผักชีฝรั่ง พริกป่น คลุกเคล้ากับน้ำมะนาว น้ำปลา เพียงเท่านี้ก็ได้รสชาติอร่อยแบบแซ่บสุดๆแล้วล่ะ ที่มีสูตรขั้นตอนการทำซุปหน่อไม้ดังนี้







เครื่องปรุง
  1. หน่อไม้เผา ต้มให้สุก ½ ถ้วยตวง
  2. น้ำใบย่านาง 1 ถ้วยตวง
  3. พริกป่น 2 ช้อนชา
  4. ข้าวคั่ว 1 ½ ช้อนโต๊ะ
  5. งาขาวคั่ว โขลกพอแตก 1 ช้อนโต๊ะ 
  6. น้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ
  7. น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
  8. น้ำปลาร้าต้มสุก 1 ช้อนโต๊ะ
  9. หอมแดงซอย 3 ช้อนโต๊ะ
  10. ต้นหอมซอย 3 ช้อนโต๊ะ
  11. ผักชีฝรั่งหั่น 2 ช้อนโต๊ะ
  12. ใบสะระแหน่ 3 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ
1. ในขั้นตอนแรกควรเตรียมหน่อไม้ให้พร้อมปรุงเสียก่อน
  • ถ้าเป็นหน่อไม้สดจะเอามาทำซุปหน่อไม้ ต้องนำไปเผาไฟให้สุก จากนั้นให้เอากาบออกให้เหลือแต่เนื้อหน่อไม้ แล้วเอาไปล้างให้สะอาด จากนั้นเอาไปต้มให้สุก (หน่อไม้จะเหลือง) เมื่อต้มหน่อไม้สุกแล้ว นำมาเลาะเปลือกออก แล้วนำเนื้อไปทำการขูดเป็นเส้น (คือเอาช้อนส้อมหรือเหล็กแหลมอันใหม่มาขูดจากโคนของเนื้อหน่อไม้ไปทางยอดจะได้หน่อไม้เป็นเส้นๆตามยาว) จากนั้นต้องพยายามบีบนวดขยำเนื้อหน่อไม้หรือการคั้นน้ำจากหน่อไม้ให้น้ำหมดไปจากเนื้อหน่อไม้ด้วย (เพื่อให้น้ำขมในเนื้อหน่อไม้หมดไป) แล้วควรนำไปล้างทำความสะอาดอีกอย่างน้อย 1 ครั้ง คือหน่อไม้ที่เตรียมเสร็จแล้วนั้นควรมีรสจืด
  • แต่ถ้าเป็นหน่อไม้รวก หน่อไม้ดองขูดเป็นเส้นเล็กฝอย หรือหน่อไม้แบบกระป๋อง (ที่หาซื้อได้จากตลาด …แบบนี้ก็จะสะดวกดี) เตรียมโดยให้นำหน่อไม้ไปต้มกับน้ำเปล่าจนสุก ให้หายขม หายเฝื่อน...ก็นำมาปรุงซุปฯได้แล้ว
2. ให้คั้นน้ำใบย่านาง (หรือจะซื้อที่ตลาดเลยก็ได้…ก็ให้ไปทำที่ข้อ3 ได้เลย)
วิธีทำน้ำใบย่านาง คือให้นำส่วนใบย่านาง 3-4 ใบนำไปล้างทำความสะอาด แล้วนำไปใส่ครกโขลกให้ละเอียดหรือด้วยเครื่องปั่นน้ำผลไม้ก็ได้ แล้วเติมน้ำ 1 ถ้วยตวงลงไป เราก็จะได้น้ำใบย่านาง 1 ถ้วยตวงออกมาแล้ว
3. ต้มหน่อไม้กับน้ำใบหญ้านาง ดังนี้คือ ใส่หน่อไม้ลงในหม้อ ตามด้วยน้ำใบย่านางและเกลือเล็กน้อย แล้วพยายามกดหน่อไม้ให้จมลงในน้ำใบย่านางทั้งหมด จากนั้นเปิดไฟต้มจนหน่อไม้สุก ลักษณะคือจะมีน้ำขลุกขลิกเหลืออยู่ในหน่อไม้ต้มน้ำใบย่านาง
4. เมื่อเราต้มจนหน่อไม้สุกแล้ว ให้ปิดไฟ แล้วพักให้ส่วนของหน่อไม้นั้นเย็นซะก่อน ก่อนที่เราจะนำมาทำซุปหน่อไม้
5. นำหน่อไม้ที่เตรียมไว้และน้ำใบย่าเพียงเล็กน้อยใส่ลงในครก แล้วตำเบาๆคลุกเคล้าพอให้เข้ากัน จากนั้นใส่ส่วนผสมทั้งหมดลงไป ได้แก่ งา ข้าวคั่ว พริกป่น (ปริมาณตามชอบ) น้ำมะนาว น้ำปลา น้ำปลาร้า แล้วตำเบาๆ (ลักษณะแบบคลุกเคล้าและย้ำเล็กน้อยเพื่อให้ส่วนผสมทั้งหมดเข้ากัน)
6. จากนั้นให้ใส่หอมแดงซอยลงไป ตามด้วยต้นหอมซอย แล้วตำเบาๆคลุกเคล้าให้เข้ากัน
7. จากนั้นให้ใส่ผักชีฝรั่งหั่นและใบสะระแหน่ลงไป แล้วเพียงใช้ช้อนหรือทัพพีคลุกเคล้าให้เข้ากันโดยไม่ต้องใช้ลูกครกย้ำแล้ว
8. จากนั้นก็ตักเสิร์ฟใส่จาน ตกแต่งบนอาหารด้วยต้นหอมซอย ผักชีใบยาว และใบสะระแหน่ เพื่อให้ดูน่ารับประทานยิ่งขึ้น
(สำหรับเสิร์ฟรับประทาน 1 ที่)

คำแนะนำ
  • ส่วนผักที่ใช้รับประทานกับซุปหน่อไม้นั้นส่วยใหญ่ก็จะเหมือนกันกับลาบและส้มตำ เพื่อเพิ่มรสชาติให้อร่อยยิ่งขึ้น ซึ่งผักที่ใช้ก็ขึ้นอยู่กับความชอบของเราสามารถนำมารับประทานด้วยได้ทั้งสิ้น เช่น กะหล่ำปลี ผักกาดหอม ผักกาดขาว หรือใบโหระพา
  • สามารถใช้ได้ทั้งพริกป่นและพริกสด สำหรับพริกป่นจะหอมกว่า พริกสดจะจัดจ้านกว่า หรือจะเอาพริกสดไปคั่วไฟก็ได้เหมือนกัน
  • บางสูตรนั้น ในขั้นตอนปรุงรสซุปหน่อไม้นั้น เขาอาจนำหอมแห้งปอกเปลือกและพริกสดไปคั่วไฟในกระทะรวมกันพอหอม แล้วนำไปใส่ครกโขลกตำให้ละเอียดเข้ากันดี จากนั้นจึงใส่หน่อไม้ที่เตรียมไว้ลงไป แล้วก็ตามด้วยเครื่องปรุงต่างๆทั้งหมดลงไปคลุกเคล้าให้เข้ากัน…แบบนี้ก็ได้ ซึ่งอันนี้ก็แล้วแต่สูตรแล้วแต่ถนัดความชอบ ก็จะได้รสชาติหอมอร่อยอีกแบบ แต่ก็ไม่ต่างกันมากค่ะ